การวางแผนตั้งครรภ์และดูแลทารกในครรภ์ให้มีสุขภาพแข็งแรง ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ หนึ่งในความกังวลหลักคือ “ความผิดปกติทางพันธุกรรม” โดยเฉพาะ กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) ที่เกิดจากความผิดปกติของจำนวนโครโมโซม ซึ่งแพทย์มักแนะนำให้ตรวจคัดกรองก่อนคลอด หนึ่งในวิธีที่เป็นที่รู้จักมายาวนานคือ เจาะน้ำคร่ำ ตรวจดาวน์ซินโดรม แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ที่ปลอดภัยกว่าและให้ความแม่นยำสูง นั่นคือ การตรวจ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing)
บทความนี้จะพาคุณแม่มือใหม่มาทำความเข้าใจถึงวิธี เจาะน้ำคร่ำ ตรวจดาวน์ซินโดรม ข้อดีข้อเสีย และเปรียบเทียบกับ NIPT (G-NIPT จาก whiteroom.ai) เพื่อช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
เจาะน้ำคร่ำ ตรวจดาวน์ซินโดรม คืออะไร?
เจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis) เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดที่แพทย์ใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผ่านผนังหน้าท้องของมารดา เพื่อดูดน้ำคร่ำที่อยู่รอบตัวทารกออกมาประมาณ 15–20 มิลลิลิตร น้ำคร่ำนี้มีเซลล์ของทารกซึ่งสามารถนำไปตรวจสอบจำนวนและโครงสร้างของโครโมโซมได้ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตรวจดาวน์ซินโดรมผ่านการเจาะน้ำคร่ำ
วิธีนี้ใช้มายาวนานและถือเป็นมาตรฐานในการตรวจหาความผิดปกติ เช่น
- กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม (Trisomy 21)
- เอ็ดเวิร์ดซินโดรม (Trisomy 18)
- พาเทาซินโดรม (Trisomy 13)
- รวมถึงโรคพันธุกรรมบางชนิด
กล่าวได้ว่าวิธีนี้ให้ความแม่นยำสูงเกือบ 100% เนื่องจากเป็นการตรวจเชิงวินิจฉัยโดยตรง

เจาะน้ำคร่ำ เจ็บไหม? และมีความเสี่ยงอะไรบ้าง
คำถามยอดฮิตจากคุณแม่หลายท่านคือ “เจาะน้ำคร่ำ เจ็บไหม?”
- ขณะเจาะมักจะรู้สึกเจ็บคล้ายการฉีดยาและอาจมีอาการตึงหน้าท้อง
- หลังทำอาจรู้สึกหน่วง ๆ คล้ายปวดประจำเดือน
แต่สิ่งที่คุณแม่กังวลมากกว่าคือ ความเสี่ยงจากการเจาะน้ำคร่ำ ซึ่งแม้จะอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม ได้แก่
- เสี่ยงแท้งบุตร ประมาณ 1–0.3%
- การติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
- การรั่วของน้ำคร่ำหรือการบาดเจ็บต่อทารก (แม้โอกาสจะน้อยมาก)
ดังนั้น แม้การเจาะน้ำคร่ำจะให้ผลที่แม่นยำ แต่ก็มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยที่คุณแม่ไม่อาจมองข้ามเมื่อต้องการตรวจดาวน์ซินโดรม

ตรวจ NIPT (G-NIPT) ทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยกว่า
ด้วยข้อจำกัดของการเจาะน้ำคร่ำ ปัจจุบันจึงมีทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก คือ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing)
โดยเฉพาะ G-NIPT จาก whiteroom.ai ที่ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ DNA ของทารกจากเลือดคุณแม่เพียงเล็กน้อย ไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำ จึง ปลอดภัย ไร้ความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
ข้อดีของ การตรวจ NIPT (G-NIPT) ได้แก่:
✅ ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป
✅ ปลอดภัย ไม่รุกรานทารก
✅ ความแม่นยำสูงกว่า 99%
✅ รู้ผลเร็วภายใน 5 วันทำการ
✅ ผ่านการรับรองจาก CAP และ KFDA มั่นใจได้ในมาตรฐานสากล

ควรเลือก เจาะน้ำคร่ำ หรือ ตรวจ NIPT ดี?
การตัดสินใจขึ้นอยู่กับความต้องการและคำแนะนำจากแพทย์
- เจาะน้ำคร่ำ: เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการผลวินิจฉัยยืนยันแบบ 100% แม้เจาะเพื่อการตรวจดาวน์ซินโดรมอาจมีความเสี่ยงต่อทารกบ้าง
- ตรวจ NIPT (G-NIPT): เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง ไม่อยากเสี่ยงแท้ง และต้องการคัดกรองเบื้องต้นที่แม่นยำมาก
ในปัจจุบัน แพทย์จำนวนมากแนะนำให้เริ่มจาก ตรวจ NIPT ก่อน หากพบความผิดปกติ จึงค่อยพิจารณา เจาะน้ำคร่ำ เพื่อยืนยันผลอีกครั้ง ซึ่งช่วยลดการเจ็บตัวและความเสี่ยงของคุณแม่ได้อย่างมาก
ทำไมควรเลือกตรวจ G-NIPT ที่ whiteroom.ai
- ให้บริการโดยห้องปฏิบัติการมาตรฐานสูงจากเกาหลีใต้
- ผ่านการรับรองจาก CAP และ KFDA
- ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการ
- การันตีผลตรวจที่รวดเร็ว ปลอดภัย และแม่นยำ
สรุป
เจาะน้ำคร่ำ ตรวจดาวน์ซินโดรม เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้มาอย่างยาวนานและแม่นยำสูง แต่ก็มีความเสี่ยงเล็กน้อยที่คุณแม่หลายคนกังวล ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บขณะทำ หรือความเสี่ยงแท้งบุตร
ในขณะที่ ตรวจ NIPT (G-NIPT) จาก whiteroom.ai เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ปลอดภัยกว่า ไม่เจ็บ ไม่เสี่ยง และยังมีความแม่นยำสูง จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการความมั่นใจและความสบายใจในการดูแลลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
✨ หากคุณแม่กำลังตัดสินใจเรื่องการตรวจคัดกรองก่อนคลอด ลองพิจารณา G-NIPT ทางเลือกที่ปลอดภัยและแม่นยำสำหรับครอบครัวของคุณ
📌 บริการตรวจ G-NIPT พร้อมคำปรึกษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 👉 www.whiteroom.ai
