จะรู้ได้ไงว่าท้องหรือไม่ เช็กสัญญาณการตั้งครรภ์และเรียนรู้วิธีตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง ง่ายแต่ชัวร์ มั่นใจว่าท้องจริงไม่ใช่ท้องลม ไม่ว่าจะเป็นอาการคนท้องที่เห็นได้ชัด ตลอดจนข้อสังเกตที่ควรระวังเพื่อป้องกันอาการท้องไม่รู้ตัว พร้อมทั้งแนะนำการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ ให้คุณสังเกตอาการตั้งครรภ์และตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตนเองได้ไม่ยาก

สัญญาณที่ควรสังเกตเมื่อสงสัยว่าท้องหรือไม่
เมื่อคุณสงสัยว่าท้องหรือไม่ จะรู้ได้ไงว่าท้องจริงหรือเปล่า คุณสามารถสังเกตอาการของคนท้องโดยทั่วไปได้ โดยการสังเกตจากสัญญาณการตั้งครรภ์ในอาการต่าง ๆ
แต่ในบางรายอาจมีอาการท้องไม่รู้ตัว ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันไป เมื่อทราบสาเหตุที่ทำให้บางคนท้องไม่รู้ตัวแล้วก็จะสามารถสังเกตตัวเองว่ามีอาการตั้งครรภ์หรือไม่ได้ง่ายขึ้น
อาการของคนท้องทั่วไป
หมดข้อสงสัยจะรู้ได้ไงว่าท้อง เมื่อสังเกตอาการของคนท้องโดยทั่วไป ซึ่งสามารถสังเกตได้จากหลายอาการร่วมกันเช่น การขาดประจำเดือน, อาการคลื่นไส้อาเจียน, อาการคัดเต้านม, ปัสสาวะบ่อย, สีผิวบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายเปลี่ยน, เหนื่อยอ่อนง่าย, ไวต่อกลิ่น, อารมณ์แปรปรวน และอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลังการตั้งครรภ์
สำหรับท่านที่สนใจว่าจะสังเกตอาการเหล่านี้ได้อย่างไร ควรเริ่มสังเกตอาการตั้งแต่เมื่อไหร่ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิธีสังเกตว่าท้องหรือไม่
อาการของคนท้องไม่รู้ตัว
ในบางรายก็อาจมีอาการคนท้องไม่รู้ตัว ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุได้แก่
- ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเกิดขึ้นน้อยมากจนไม่รู้สึก
- เข้าใจผิดว่าสัญญาณเตือนการตั้งครรภ์เกิดจากสาเหตุอื่น เช่น คิดว่าประจำเดือนขาดเพราะความเครียด
- ทดลองใช้ที่ตรวจครรภ์แล้ว แต่ผลตรวจผิดพลาดเนื่องจากการใช้ที่ตรวจครรภ์อย่างไม่ถูกวิธี หรือใช้ชุดทดสอบที่มีความไวต่อการตรวจหาฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) น้อย
จากสาเหตุเหล่านี้จึงสามารถสรุปได้ว่า การแก้ปัญหาท้องไม่รู้ตัวสามารถทำได้โดยการใส่ใจความเปลี่ยนแปลงและความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย และอาจให้คนรอบตัวช่วยสังเกตด้วย โดยอาจจดบันทึกเมื่อมีสัญญาณต่าง ๆ แม้เพียงเล็กน้อย เมื่อพบหลายสัญญาณประกอบกันก็จะสามารถรู้ตัวได้ว่าเป็นอาการที่เข้าข่ายการตั้งครรภ์และสามารถตรวจครรภ์ได้อย่างทันท่วงที
ท้องจริงหรือท้องลม เช็กอย่างไรให้ชัวร์
จะรู้ได้ไงว่าท้องจริงหรือเปล่า นอกจากการสังเกตว่ามีอาการที่เข้าข่ายการตั้งครรภ์หรือไม่แล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคืออาการเหล่านั้นเกิดจากการตั้งครรภ์จริง ๆ หรือการท้องลมกันแน่
ท้องจริงกับท้องลมคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
ท้องจริงคือการตั้งครรภ์จริง ๆ ที่มีตัวอ่อนอยู่ในครรภ์ ซึ่งเกิดจากการปฏิสนธิของไข่และสเปิร์มฝังตัวในมดลูกและพร้อมจะเจริญเติบโตต่อไป
ท้องลม (Blighted Ovum) คือ ภาวะที่ไม่มีตัวอ่อนอยู่ในครรภ์หรือตัวอ่อนฝ่อและสลายไปเองภายในครรภ์ เหลือแต่ถุงตั้งครรภ์เท่านั้น เป็นความผิดปกติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ในทุกช่วงวัย แต่จะมีความเสี่ยงมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
ความแตกต่างของการท้องจริงและท้องลมคือการที่ท้องจริงจะมีตัวอ่อนจริง ๆ พร้อมเจริญเติบโตต่อไป แต่การท้องลมคือการที่ตัวอ่อนนั้นฝ่อไปแล้ว และไม่สามารถเจริญเติบโตต่อได้อีก แต่ยังสามารถมีสัญญาณเตือนตั้งครรภ์ได้เช่นกัน
วิธีเช็กว่าท้องจริงหรือท้องลม
วิธีเช็กว่าท้องจริงหรือท้องลม ในเบื้องต้นหากมีสัญญาณเตือนตั้งครรภ์ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปท้องกลับไม่โตขึ้น รวมไปถึงมีเลือดหรือประจำเดือนออกมากผิดปกติ ก็อาจเป็นข้อสังเกตที่ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการอัลตร้าซาวด์ ดูตัวอ่อนในครรภ์ว่ายังมีตัวอ่อนอยู่หรือไม่หรือเหลือเพียงถุงตั้งครรภ์โดยจะต้องผ่านช่วงเริ่มตั้งครรภ์มาไม่ต่ำกว่า 5–6 สัปดาห์ เพื่อให้สามารถเห็นถุงตั้งครรภ์ได้
ทั้งนี้การเช็กว่าท้องจริงหรือท้องลมไม่สามารถเช็กผ่านการตรวจหาฮอร์โมน HCG ในเลือดหรือในปัสสาวะได้ ซึ่งแม้จะมีภาวะท้องลมร่างกายก็จะยังผลิตฮอร์โมนดังกล่าวต่อไป
จะรู้ได้ไงว่าท้อง? ดูวิธีตรวจครรภ์ด้วยตนเองอย่างง่าย ทำเองได้ที่บ้าน
การตอบคำถามว่าจะรู้ได้ไงว่าท้องได้ดีที่สุดก็คือการตรวจครรภ์หลังพบสัญญาณเตือนตั้งครรภ์นั่นเอง โดยวิธีตรวจครรภ์ที่ทำเองได้ง่าย ๆ ทำที่บ้านก็สะดวก คือการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้
ควรเริ่มตรวจครรภ์ช่วงไหนถึงจะชัวร์
จะรู้ได้ไงว่าท้อง ตรวจครรภ์ได้ตอนไหน ตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วันถึงจะได้ผลที่ถูกต้อง การตรวจครรภ์ที่เร็วเกินไป จะทำให้ได้ผลตรวจที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงควรกะระยะเวลาการใช้ชุดตรวจครรภ์ให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถตรวจสอบฮอร์โมน HCG ในปัสสาวะได้ในปริมาณที่เพียงพอ โดยควรเริ่มตรวจครรภ์ช่วง 21 วันหลังการมีเพศสัมพันธ์ (ฮอร์โมน HCG จะเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วง 8-12 สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์)
สำหรับคำถามที่ว่าตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด การตรวจในช่วงเช้าทันทีหลังตื่นนอนจะช่วยให้มั่นใจในผลตรวจได้มากขึ้น แต่หากตรวจแล้วยังไม่แน่ใจ สามารถรออีก 2-3 วันไปจนถึง 1 สัปดาห์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งได้
วิธีใช้และข้อแนะนำในการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์
วิธีใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์เพื่อตอบปัญหาว่าจะรู้ได้ไงว่าท้องนั้นสามารถทำได้ไม่ยาก โดยแบ่งวิธีออกตามชุดทดสอบแต่ละแบบได้แก่
- จุ่มที่ตรวจครรภ์แบบแถบจุ่มลงไปในน้ำปัสสาวะที่ตวงไว้ในถ้วยตวง
- หยดน้ำปัสสาวะจากถ้วยตวงลงบนตลับทดสอบ
- ปัสสาวะผ่านที่ตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่านให้ชุ่ม
จากนั้นจึงรอผลอ่านประมาณ 3-5 นาที หากผลลัพธ์ขึ้น 2 ขีด นั่นหมายถึงคุณได้ผลเป็นบวก เข้าข่ายการตั้งครรภ์
โดยการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์มีข้อควรระวังในการใช้คือ
- ควรเก็บชุดทดสอบในที่ที่อุณหภูมิปกติ ไม่ร้อน และไม่สัมผัสความชื้น เพื่อให้ชุดทดสอบทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- ตรวจสอบวันหมดอายุของชุดทดสอบการตั้งครรภ์ก่อนใช้ และใช้งานชุดทดสอบทันทีหลังแกะออกจากบรรจุภัณฑ์
- อ่านวิธีใช้ให้ละเอียดก่อนการใช้งานชุดทดสอบการตั้งครรภ์
- เมื่อตรวจสอบแล้วควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป เพื่อสามารถฝากครรภ์และรับคำแนะนำเพิ่มเติมจากแพทย์ได้
สรุป
จะรู้ได้ไงว่าท้อง เป็นปัญหาที่แก้ได้ไม่ยาก เพียงแค่สังเกตอาการเตือนตั้งครรภ์ต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์เพื่อความมั่นใจว่าสัญญาณดังกล่าวเป็นการท้องจริงหรือไม่ จากนั้นจึงไปพบแพทย์เพื่อความมั่นใจและการดูแลหลังการตั้งครรภ์ โดยสามารถแยกการท้องจริงและการท้องลมได้ผ่านการทำอัลตร้าซาวด์
Reference:
ข้อมูลบางส่วนจาก วิธีสังเกตว่าท้องหรือไม่ ดู 15 อาการเตือนคนเริ่มท้อง พร้อมวิธีดูแล
Pregnancy Tests Available from : https://my.clevelandclinic.org/health/diagnostics/9703-pregnancy-tests
When Should You Take a Pregnancy Test? Available from : https://www.healthline.com/health/pregnancy/five-signs-to-take-pregnancy-test#when-to-test
พญ.พลอยนิล พุทธาพิทักษ์พงศ์, ท้องลม (Blighted Ovum) คืออะไร? Available from : https://www.praram9.com/blighted-ovum/
Annie Stuart, Blighted Ovum Available from : https://www.webmd.com/baby/blighted-ovumYvonne Butler Tobah, M.D., Blighted ovum: What causes it? Available from : https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/pregnancy-loss-miscarriage/expert-answers/blighted-ovum/faq-20057783