ท้องกี่เดือนรู้เพศคำถามที่คุณแม่คุณพ่อมือใหม่หลาย ๆ คู่อาจสงสัย ในขณะที่กำลังตื่นเต้นกับการมีลูกคนแรก คุณแม่คุณพ่อก็คงนับวันรอว่าเมื่อไหร่กันนะจะตรวจเพศลูกได้ มาหาคำตอบว่าท้องกี่เดือนรู้เพศ ทำความรู้จักกับพัฒนาการของลูกน้อยและการดูเพศลูกวิธีต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กันได้ในบทความนี้
ทำไมต้องรอให้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมจึงจะตรวจเพศลูกได้
ท้องกี่เดือนรู้เพศลูก? ตรวจเพศเลยไม่ได้หรือ? การจะตรวจให้พบเพศของทารกในครรภ์นั้นต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมเสียก่อน เช่นเดียวกับการตรวจตั้งครรภ์ เร็วสุดกี่วันจึงจะตรวจได้นั่นเอง เพราะการตรวจตั้งครรภ์ต้องรอให้มีฮอร์โมน HCG ที่เพียงพอเสียก่อนจึงจะตรวจเจอ ในขณะที่การตรวจเพศลูกต้องรอให้พัฒนาการของลูกน้อยอยู่ในช่วงที่เหมาะสมเสียก่อนจึงจะได้ผลลัพธ์ที่มั่นใจได้
เพราะพัฒนาการทารกในครรภ์แต่ละช่วงย่อมแตกต่างกันไป ตั้งแต่การเริ่มปฏิสนธิ เริ่มพัฒนาอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ในช่วงแรกจนไปถึงการเริ่มพัฒนาอวัยวะเพศ และระบบอื่น ๆ ในร่างกาย ดังนั้นจะรู้เพศลูกได้ก็ต้องรอให้ถึงช่วงที่เหมาะสมก่อนจึงจะสามารถตรวจได้
ท้องกี่เดือนรู้เพศลูก เริ่มตรวจได้ตั้งแต่ตอนไหน
การจะตอบคำถามที่ว่าท้องกี่เดือนรู้เพศลูกได้นั้นต้องดูช่วงพัฒนาการของทารกในครรภ์เสียก่อน โดยในช่วงสัปดาห์ที่ 10 ทารกในครรภ์จะเริ่มพัฒนาอวัยวะเพศและร่างกายส่วนต่าง ๆ มากขึ้น ร่างกายดูเป็นรูปเป็นร่าง นิ้วมือและนิ้วเท้าแยกกัน จนเมื่อมีอายุครรภ์ประมาณ 12 สัปดาห์จะสามารถมองเห็นและดูเพศของลูกได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ในขณะที่ทารกสามารถดื่มน้ำคร่ำรวมไปถึงขับถ่ายของเสียผ่านปัสสาวะได้อีกด้วย
ดังนั้นคำตอบของคำถามที่ว่าท้องกี่เดือนรู้เพศลูกก็คือตั้งแต่ช่วง 10 – 12 สัปดาห์นั่นเอง ขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจเพศลูกที่คุณเลือกใช้ เพราะวิธีการตรวจแต่ละแบบจะเหมาะสมต่อช่วงเวลาในการตรวจที่แตกต่างกันไป
ตรวจเพศลูกด้วยวิธีใดได้บ้าง
เมื่อรู้แล้วว่าท้องกี่เดือนรู้เพศ คำถามต่อไปที่มักจะตามมาคือแล้วคุณพ่อคุณแม่จะตรวจเพศลูกได้ด้วยวิธีใดบ้าง? การตรวจเพศทารกในครรภ์นั้นมีหลายวิธีด้วยกัน โดยวิธีหลัก ๆ ได้แก่ 4 วิธีดังต่อไปนี้
- ตรวจอัลตร้าซาวด์
- ตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ (NIPT: Non-Invasive Prenatal Test)
- ตรวจจากชิ้นเนื้อรก
- ตรวจโดยการเจาะน้ำคร่ำ
การตรวจอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound)
หากต้องตอบคำถามว่าท้องกี่เดือนรู้เพศสำหรับวิธีการตรวจแบบอัลตร้าซาวด์แล้วก็คงจะเป็น 18-21 สัปดาห์นั่นเอง เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการอัลตร้าซาวด์เพื่อให้เห็นอวัยวะของทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจนที่สุด โดยการตรวจอัลตร้าซาวด์ประกอบไปด้วยการตรวจทั้งหมด 3 แบบได้แก่
- Ultrasound 2D คือการตรวจทั่วไปที่เห็นภาพเป็นสีขาวดำ ทำให้เห็นภาพโครงสร้างกระดูกและอวัยวะต่าง ๆ ของทารกได้ แต่จะอยู่ในลักษณะภาพแบนเรียบเท่านั้น มองไม่เห็นความลึกตื้นใด ๆ
- Ultrasound 3D คือการตรวจในลักษณะคล้ายกับ 2D ที่เป็นการใช้คลื่นเสียงเพื่อสำรวจและสร้างภาพของทารกในครรภ์ขึ้นมา แต่จะมีลักษณะที่เป็น 3 มิติทำให้เห็นหน้าและอวัยวะภายนอกของทารกได้มากขึ้น
- Ultrasound 4D คือการตรวจที่ให้ภาพทารกได้ชัดเจนยิ่งกว่าแบบ 3D โดยการเก็บวิดีโอทารกในครรภ์แล้วเลือกเก็บภาพนิ่งจากในวิดีโอนั้นออกมา ดังนั้นจึงได้ภาพจำนวนมากและอาจมีโอกาสเห็นลูกน้อยของคุณหาวหรือยิ้มได้อีกต่างหาก
การตรวจอัลตร้าซาวด์ทั้ง 3 แบบนี้จึงช่วยให้คุณทราบเพศลูกได้อย่างแม่นยำ
การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ (NIPT: Non-Invasive Prenatal Test)
การตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ สามารถตรวจได้เร็วกว่าการตรวจอัลตร้าซาวด์เสียอีก เพราะสามารถตรวจเพศลูกได้ตั้งแต่ 10-20 สัปดาห์ วิธีตรวจประเภทนี้จะใช้เลือดของคุณแม่เพื่อตรวจหาความผิดปกติในโครโมโซมต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ต่อไป
ตัวอย่างการตรวจ NIPT เช่นการใช้G-NIPT ซึ่งใช้เลือดจากคุณแม่เพียง 8-10 ซีซีเท่านั้น มาผ่านการเทคโนโลยีวิเคราะห์ลำดับเบสและระบบประมวลผลที่แม่นยำ ทำให้สามารถทราบผลเพศลูกและความผิดปกติทางโครโมโซมต่าง ๆ อย่างดาวน์ซินโดรมได้ภายในเวลาเพียงแค่ 5 วัน
ข้อดีอีกอย่างของการใช้ G-NIPT เพื่อตรวจเพศลูกคือสามารถเลือกได้ว่าจะตรวจที่บ้านหรือตรวจที่คลินิก ทั้งยังพร้อมให้บริการทั่วทั้งประเทศอีกต่างหาก จึงสะดวกกว่าการตรวจประเภทอื่น ๆ ที่ต้องไปคลินิกหรือพบแพทย์เท่านั้น
การตัดชิ้นเนื้อรก (chorionic villus sampling)
สำหรับการตรวจแบบตัดชิ้นเนื้อรก ก็สามารถตอบคำถามที่ว่าท้องกี่เดือนรู้เพศได้ใน 10-12 สัปดาห์เป็นต้นไป เพราะการตรวจประเภทนี้เป็นการตรวจจากโครโมโซมของทารกในครรภ์เช่นเดียวกันกับการตรวจแบบ NIPT เพียงแต่ใช้วิธีที่ต่างกันคือคุณแม่จะต้องไปพบแพทย์และตัดชิ้นเนื้อจากรกออกมาเท่านั้น
เนื่องจากเซลล์ในชิ้นเนื้อรกและเซลล์ในตัวทารกเป็นเซลล์ที่เกิดจากการปฏิสนธิเดียวกัน ดังนั้นจึงใช้ตรวจสอบโครโมโซมได้นั่นเอง ทั้งนี้การตรวจประเภทนี้อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าการตรวจแบบอื่น ๆ อีกด้วย
การเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis)
วิธีสุดท้ายที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้เพศลูกน้อยในครรภ์ได้คือการเจาะน้ำคร่ำ ซึ่งเริ่มตรวจได้ค่อนข้างช้าที่อายุครรภ์ 17 สัปดาห์เป็นต้นไป ต้องใช้น้ำคร่ำประมาณ 20 ซีซี และมีความเสี่ยงแท้งอยู่ที่ 1% อีกด้วย ในขณะที่การตรวจแบบอัลตร้าซาวด์และการตรวจ NIPT ไม่พบความเสี่ยงตรงนี้ รวมไปถึงการเจาะน้ำคร่ำยังต้องรอผลนาน 7-14 วันอีกด้วย นับว่าค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับการตรวจประเภทอื่น ๆ
รู้เพศลูกแล้วจะดูแลทารกในครรภ์ได้อย่างไร
การจะรู้ว่าท้องกี่เดือนรู้เพศลูกได้นั้นขึ้นอยู่กับอายุครรภ์ของคุณแม่นั่นเอง ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีนับอายุครรภ์เข้าช่วยเพื่อให้รู้ว่าจะสามารถตรวจเพศลูกด้วยวิธีใดได้บ้าง โดยอายุครรภ์แต่ละช่วงจะส่งผลให้ทารกในครรภ์มีพัฒนาการมากน้อยแตกต่างกันไป
เมื่อรู้ว่าเป็นช่วงอายุครรภ์ใดก็จะสามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างเหมาะสม เช่นการรับประทานธาตุเหล็กมากขึ้นเมื่อทารกอยู่ในช่วงที่มีพัฒนาการด้านกระดูกและฟัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณแม่รู้ว่าตอนไหนจึงจะเริ่มนับลูกดิ้นได้ และสามารถสังเกตว่าลูกน้อยยังมีพัฒนาการเป็นปกติหรือไม่ได้อีกต่างหาก
จะเห็นว่าการรู้เพศลูกอาจไม่ได้ส่งผลต่อการดูแลทารกในครรภ์โดยตรง แต่ก็สามารถช่วยให้คุณแม่เตรียมตัวซื้อข้าวของเครื่องใช้หรือตกแต่งห้องรอลูกน้อยได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
สรุป
ท้องกี่เดือนรู้เพศขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจเพศลูกที่คุณเลือกใช้ โดยสามารถรู้เพศทารกในครรภ์ได้เร็วที่สุดตั้งแต่ 10 เดือนเป็นต้นไป ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากรู้เพศลูกเพื่อเตรียมตัวเผื่อเจ้าตัวน้อยที่จะลืมตาดูโลกในอนาคตก็สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมเพื่อตรวจเพศลูกได้เลย
Ref
เนื้อหาบางส่วนจากบทความ “อายุครรภ์ในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร นับยังไงให้ถูกต้อง พร้อมวิธีดูแล”
Ashley Marcin., How Soon Can You Find Out the Sex of Your Baby?, Available from: https://www.healthline.com/health/pregnancy/when-can-you-find-out-sex-of-baby
Karen Miles., When and how can I find out my baby’s sex?, Available from: https://www.babycenter.com/pregnancy/health-and-safety/when-and-how-can-i-find-out-my-babys-sex_20004784The Difference Between 2D, 3D, 4D, HD and 5D Ultrasounds, Available from: https://anticipationultrasoundstudio.com/the-difference-between-2d-3d-4d-and-5d-ultrasounds/