
- By Mr. whiteroom med
- บทความเพื่อคุณแม่และลูกน้อย
การนับลูกดิ้นเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะการนับลูกดิ้นมีประโยชน์มากมายทั้งต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเฝ้าระวังสุขภาพของลูกน้อยเมื่อเกิดเหตุผิดปกติต่าง ๆ ทำให้สามารถไปพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงที มาทำความรู้จักกับการนับลูกดิ้นและเรียบรู้วิธีนับลูกดิ้นไปพร้อมกันได้ในบทความนี้
นับลูกดิ้นคืออะไร
นับลูกดิ้นคือวิธีเฝ้าติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์โดยการจดบันทึกการขยับหรือการดิ้นของลูกน้อย โดยมากแล้วการดิ้นของทารกในครรภ์จะมีลักษณะเป็นรูปแบบเดิม ๆ แต่หากมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปก็อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับทารกได้
ลูกเริ่มดิ้นครั้งแรกช่วงไหน
การจะเริ่มนับลูกดิ้นได้นั้นต้องรู้เสียก่อนว่าช่วงใดที่ทารกในครรภ์จะเริ่มดิ้น โดยครั้งแรกที่ทารกเริ่มดิ้นมักเป็นช่วงอายุครรภ์ 20 สัปดาห์หรืออายุครรภ์ 5 เดือน เพราะเป็นช่วงที่ทารกมีการขยับร่างกายมากขึ้น อาจเริ่มเตะและต่อยท้องคุณแม่แล้วนั่นเอง
โดยคุณแม่ที่ยังไม่รู้อายุครรภ์ของตนเอง หรือยังไม่แน่ใจว่าใกล้ได้เวลานับลูกดิ้นหรือยัง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ วิธีนับอายุครรภ์ เพื่อให้คุณแม่ทราบอายุครรภ์ที่แน่นอนของตนเองและเริ่มนับลูกดิ้นได้ในช่วงอายุครรภ์ที่เหมาะสม

นับลูกดิ้นอย่างไร ใช้วิธีไหนได้บ้าง
การนับลูกดิ้นในระยะแรก ๆ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณแม่มือใหม่ เพราะการขยับหรือเตะต่อยของลูกน้อยจะเบามาก ทำให้สังเกตได้ยาก แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปจนถึงประมาณ 28 สัปดาห์ ทารกในครรภ์จะเริ่มขยับชัดเจนมากขึ้น ทำให้คุณแม่สามารถสังเกตได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
โดยคุณแม่หลาย ๆ คนบรรยายความรู้สึกเมื่อลูกดิ้นในท้องไว้แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อกระพือปีกอยู่ในท้อง ความรู้สึกเหมือนถูกทิ่มเบา ๆ ในท้อง ตลอดจนความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกลิ้งอยู่ในท้อง หากคุณแม่รู้สึกได้ถึงการขยับเบา ๆ ในลักษณะนี้ก็อาจเป็นไปได้ว่าคุณแม่จะสามารถนับลูกดิ้นจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ได้
โดยวิธีการนับลูกดิ้นจะประกอบไปด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- นับลูกดิ้นช่วงเช้า อาจจะใช้เป็นช่วงเวลาตั้งแต่ 8.00 น. หรือ 9.00 น. เป็นต้นไป โดยใช้เวลานับประมาณ 10 – 12 ชั่วโมง ให้ได้อย่างน้อย 10 ครั้ง หากนับลูกดิ้นได้น้อยกว่านั้นถือเป็นสัญญาณอันตรายให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
- นับลูกดิ้นช่วงหลังอาหารสามมื้อ เนื่องจากทารกมักจะดิ้นมากขึ้นหลังคุณแม่รับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ โดยใช้เวลานับครั้งละ 1 ชั่วโมง ให้ได้ 3 ครั้งตามการรับประทานอาหาร 3 มื้อ หากนับลูกดิ้นได้น้อยกว่านั้นให้รีบไปพบแพทย์เช่นกัน
- นับลูกดิ้นช่วงเย็นหรือช่วงค่ำ โดยเริ่มจดเวลาที่เริ่มนับลูกดิ้นไปจนถึงเวลาที่ลูกดิ้นครบ 10 ครั้ง แล้วคำนวณว่าลูกดิ้นครบ 10 ครั้งภายในเวลากี่ชั่วโมง หากนับลูกดิ้นไปจนถึง 12 ชั่วโมงแล้วยังไม่ถึง 10 ครั้งให้รีบไปพบแพทย์
คำแนะนำเพิ่มเติมในการนับลูกดิ้น
การนับลูกดิ้นควรกระทำในเวลาเดิมทุก ๆ วัน และคุณแม่ควรอยู่ในที่ที่เงียบสงบ ไม่มีสิ่งรบกวนใด ๆ เพื่อให้สามารถตั้งสมาธิกับการจับความรู้สึกเพื่อนับลูกดิ้นได้ โดยคุณแม่อาจนอนในท่านอนตะแคงซ้ายเพื่อให้สามารถรับรู้การดิ้นของลูกน้อยได้ดีขึ้น
นอกจากนี้บางครั้งหากคุณนับลูกดิ้นแล้วไม่ค่อยรู้สึกถึงการดิ้นของลูกน้อยในช่วงเวลาหนึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ทารกกำลังหลับอยู่ โดยอาจกินเวลาได้ตั้งแต่ 20 นาที ไปจนถึง 2 ชั่วโมง ก็อาจรอเวลาเพื่อนับลูกดิ้นต่อไป หรือปลุกลูกน้อยโดยการรับประทานอาหารหรือขยับร่างกายก็ได้
ประโยชน์ของการนับลูกดิ้น
การนับลูกดิ้นมีประโยชน์อย่างมากต่อการเฝ้าติดตามพัฒนาการทารกในครรภ์ว่าลูกมีพัฒนาการที่เติบโตสมวัยหรือไม่ ทารกมีสุขภาพดีหรือมีความผิดปกติอะไรที่อาจทำให้ทารกตกอยู่ในภาวะอันตรายได้หรือเปล่า การนับลูกดิ้นจึงทำให้คุณแม่สามารถเข้าพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงที ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อทารกในครรภ์ได้
เนื่องจากการที่ทารกดิ้นน้อยลงอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ออกซิเจนไม่เพียงพอ อยู่ในภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง ที่อาจเป็นผลมาจากน้ำคร่ำน้อยผิดปกติหรือสายสะดือผูกกันจนทำให้ไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนได้ โดยระยะเวลาที่ทารดิ้นน้อยลงไปจนถึงหยุดดิ้นจะกินระยะเวลาประมาณ 12-48 ชั่วโมง ก่อนทารกจะเสียชีวิตนั่นเอง ดังนั้นการนับลูกดิ้นจึงช่วยให้เห็นถึงความผิดปกติได้ไว และป้องกันปัญหานี้ได้
ลูกดิ้นแบบไหนถือว่าผิดปกติ ต้องเฝ้าระวัง
สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องเฝ้าระวังในการนับลูกดิ้นคือการที่ลูกดิ้นน้อยผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้งภายใน 12 ชั่วโมง หรือการดิ้นน้อยกว่า 3 ครั้งหลังคุณแม่รับประทานอาหาร ตลอดจนการดิ้นที่น้อยลงจากวันก่อน ๆ เพราะการดิ้นที่น้อยอาจหมายถึงทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน จนทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ในที่สุด ดังนั้นหากคุณแม่นับลูกดิ้นได้น้อยผิดปกติจากที่ควรจะเป็นให้รีบไปพบแพทย์ในทันที
สรุป
นับลูกดิ้นเป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ทุกคนควรเริ่มฝึกทำตั้งแต่มีอายุครรภ์ 20 สัปดาห์เป็นต้นไป เพื่อให้สามารถเฝ้าติดตามสุขภาพของลูกน้อยได้อย่างใกล้ชิดและสามารถพบแพทย์ได้ทันเวลาหากมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้น เช่นเมื่อทารกดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้งภายใน 12 ชั่วโมง
นอกจากนี้หากในระยะแรกคุณแม่ยังนับลูกดิ้นได้ไม่ค่อยถนัดก็ไม่ต้องกังวล เพราะเมื่อเวลาผ่านไปลูกน้อยจะดิ้นแรงขึ้นจนคุณแม่สามารถนับการดิ้นของลูกน้อยได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
References
Kick Counts., Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/articles/23497-kick-counts
นพ.ระพีพัฒน์ เอื้อกิจรุ่งเรือง., หญิงตั้งครรภ์กับการนับลูกดิ้น., Available from: http://www.med.nu.ac.th/dpMed/fileKnowledge/264_2021-01-19.pdf
นับลูกดิ้นอย่างไร…ให้รู้ว่าทารกปลอดภัยนะ., Available from: https://www.phyathai.com/th/article/2899-นับลูกดิ้นอย่างไร___ให้ร
แบบบันทึกการนับลูกดิ้น., Available from: https://www.sikarin.com/doctor-articles/แบบบันทึกการนับลูกดิ้น