มะเร็งตับอ่อน เป็นมะเร็งชนิดที่เราพบได้เป็นลำดับที่ 10 ของมะเร็งที่คนไทยเป็นในเพศชาย (ข้อมูลจากทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล ปี 2563) แต่อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งตับอ่อนสูงมากเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากในช่วงเเรกผู้ป่วยไม่มีอาการที่จำเพาะต่อโรคจึงวินิจฉัยได้ยาก กว่าจะรู้ตัวอีกทีเซลล์มะเร็งก็ลุกลามไปมากแล้ว ด้วยเหตุนี้เราจึงควรสังเกตอาการและเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสการเสียชีวิตให้น้อยลง
สาเหตุของมะเร็งตับอ่อน
ในปัจจุบันยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่ามะเร็งตับอ่อนเกิดจากสาเหตุใด แต่มีหลายปัจจัยที่ทำให้สารพันธุกรรมเกิดการกลายพันธุ์จนส่งผลให้เซลล์เพิ่มจำนวนจนอย่างผิดปกติและไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งก่อตัวขึ้นเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง
โดยปัจจัยที่อาจทำให้เกิดมะเร็งตับอ่อนซึ่งพบได้บ่อย คือ
• อายุ โรคมะเร็งตับอ่อนมักตรวจพบได้ในผู้ที่มีอาอยู่มาก
• กรรมพันธุ์ ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อน มีพ่อ แม่ หรือลูกเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนด้วย
• โรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนได้มากกว่าคนทั่วไป
• โรคอ้วน และขาดการออกกำลังกาย จากการศึกษาพบว่าผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือผู้ที่ไม่ค่อยขยับร่างกายทำกิจกรรมต่าง ๆ นั้น มีแนวโน้มเกิดโรคมะเร็งตับอ่อนได้มากขึ้น
• โรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง และซีสต์ในตับอ่อนบางประเภท ผู้ป่วยโรคดังกล่าวจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับอ่อนได้มากขึ้น
• การสูบบุหรี่ ยิ่งสูบบุหรี่มากเท่าไรก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้มากเท่านั้น เพราะประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ที่สูบบุหรี่ รวมถึงผู้ที่เคี้ยวใบยาสูบ มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งตับอ่อน แต่หากเลิกสูบมาแล้ว 10 ปี ความเสี่ยงของโรคนี้ก็อาจลดลงเท่ากับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนได้
อาการบ่งชี้ของมะเร็งตับอ่อน
แม้ว่าอาการของมะเร็งตับอ่อนในระยะแรกจะไม่ได้ชัดเจน แต่มักจะเจอความผิดปกติเมื่อเซลล์มะเร็งเริ่มลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ โดยพบว่าผู้ป่วยมักมีความผิดปกติดังต่อไปนี้
• เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
• ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ หรือใต้ชายโครงซ้าย มักจะมีอาการปวดร้าวทะลุไปด้านหลัง
• ตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด
การรักษา
การผ่าตัดเป็นการรักษาที่ให้ผลการรักษาดีที่สุด แต่ผู้ป่วยส่วนมาก มาพบแพทย์ในระยะที่โรคลุกลามไปมากแล้ว ทําให้ไม่สามารถให้การรักษาด้วยการ ผ่าตัดได้ มีเพียง 15 – 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยเท่านั้นที่สามารถผ่าตัดได้ ในกรณีที่โรค ลุกลามไปแล้วอาจพิจารณารักษาด้วยการให้เคมีบําบัดร่วมกับรังสีรักษาในบางราย ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการดีซ่านอาจให้การรักษาด้วยการส่องกล้องเพื่อขยายท่อน้ําดี และใส่ท่อระบายน้ําดี ซึ่งจะทําให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้o
มะเร็งตับอ่อนเป็นมะเร็งที่พบได้ไม่บ่อยนัก มักพบเมื่อก้อนมีขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่าตัดออกได้ หรือพบระยะลุกลาม และมักมีอัตราเสียชีวิตสูงได้ เนื่องจากอาการเริ่มแรกมักไม่จำเพาะเจาะจง อาจมีเพียงอาการปวดท้องหรือไม่มีอาการเลย ทำให้การรักษามีความล่าช้า ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนสูงคือผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี มีรูปร่างค่อนข้างอ้วน และผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน จึงควรสังเกตอาการตัวเองอยู่เสมอ ถ้าหากมีความผิดปกติควรรีบมาพบแพทย์นะคะ
การตรวจวินิจฉัย
การตรวจวินิจฉัยมะเร็งตับอ่อนได้แม่นยำที่สุดคือการตรวจพิเศษทางรังสีวิทยา การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) การส่องกล้องอัลตราซาวนด์ Endoscopic ultrasound(EUS) ในบางครั้งอาจจะใช้การตรวจเลือด และการพิสูจน์ชิ้นเนื้อ
