การออกกำลังกายช่วงตั้งครรภ์ เป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องให้ความสำคัญ เพราะการออกกำลังกายไม่เพียงช่วยเรื่องสุขภาพร่างกายของคุณแม่แล้ว แต่ยังช่วยลดภาวะเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ได้อีกด้วย เช่น น้ำหนักตัวที่มากเกิน ความดันโลหิตสูง และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมในการคลอดตั้งแต่เนิ่นๆ ได้อีกด้วย เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบเผาผลาญภายในร่างกายได้ดี เมื่อร่างกายขับถ่ายของเสียและกำจัดไขมันส่วนเกินเป็นประจำ จะช่วยให้ปริมาณไขมันน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาจากการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นไม่มากเท่าคุณแม่ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย นอกจากนี้การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะยังช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ทำให้ร่างกายผ่อนคลายและยืดเส้นยืดสาย ช่วยให้ร่างกายกระฉับกระเฉง จึงเหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นอย่างยิ่งค่ะ
2 วิธีออกกำลังกายสำหรับคนท้อง
การออกกำลังกายสำหรับคนท้องควรอยู่ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อตัวคุณแม่เองและต่อทารกในครรภ์ โดยการออกกำลังกายสำหรับคนท้องที่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย มีดังนี้
- การเดิน
การเดินที่เหมาะสำหรับคุณแม่คือการเดินด้วยความเร็วระดับพอดี ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป เพราะจะทำให้คุณแม่หน้ามึดง่าย ตามมาด้วยอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การเดินเพียงวันละ 20-30 นาที จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) จากต่อมใต้สมอง จึงช่วยลดความรู้สึกเครียดในคนท้อง ช่วยควบคุมการบีบตัวของมดลูก ป้องกันเลือดตกหลังคลอด อีกทั้งเสริมสร้างความรู้สึกรักและผูกพันที่มีต่อลูกมากขึ้น ทั้งนี้หากคุณแม่อยู่ในช่วงใกล้คลอดแล้ว ครูก้อยขอแนะนำให้เดินเพียงวันละ 10 นาทีก็เพียงพอค่ะ
- การว่ายน้ำ
การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายสำหรับคนท้องที่ได้รับคำแนะนำว่าปลอดภัยมากที่สุด เนื่องจากน้ำจะคอยช่วยพยุงร่างกายทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยมากนัก ช่วยให้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของร่างกายอย่างแขนและขาได้ทำงานมากขึ้น ช่วยลดอาการปวดเมื่อยในระหว่างตั้งครรภ์ และยังดีต่อสุขภาพของหัวใจอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำที่หักโหมเกินไป หรือการว่ายน้ำด้วยท่าที่อาจกระทบกระเทือนต่อครรภ์ เช่น ท่าผีเสื้อ ท่ากรรเชียง ควรว่ายน้ำในท่าเบา ๆ อย่างท่าฟรีสไตล์หรือท่ากบจะเหมาะสมมากกว่า
