พัฒนาการทารกในครรภ์สำคัญอย่างไร ทำไมคุณแม่จึงควรรู้จักพัฒนาการทารกในครรภ์? พัฒนาการทารกในครรภ์มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้คุณแม่รู้ได้ว่าลูกน้อยกำลังเติบโตอย่างเหมาะสมตามพัฒนาการที่ควรจะเป็นหรือไม่ เนื่องจากทารกในครรภ์จะค่อย ๆ เติบโตขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงร่างกายแต่ละส่วนเป็นระยะ ๆ
พัฒนาการทารกในครรภ์ในแต่ละเดือน
ในแต่ละเดือนทารกในครรภ์จะมีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไป โดยสามารถแยกพัฒนาการทารกในครรภ์ตามเดือนต่าง ๆ ได้ดังนี้
เดือนที่ 1 ปฏิสนธิ
พัฒนาการทารกในครรภ์ในเดือนแรก เนื่องจากเพิ่งผ่านการปฏิสนธิมาไม่นาน ส่วนใหญ่จึงเป็นการสร้างรกเพื่อให้สามารถรับสารอาหารต่าง ๆ จากแม่ได้ และนำสารอาหารเหล่านั้นมาหล่อเลี้ยงเป็นแหล่งพลังงานเพื่อให้อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายพัฒนาต่อไปในเดือนถัด ๆ มา
โดยในช่วงเดือนนี้ทารกจะมีพัฒนาการจากระยะ Zygote ผ่านการแบ่งเซลล์หลายครั้งจนเข้าสู่ระยะ Embryo ทำให้ในช่วงปลายเดือน ทารกจะเริ่มเตรียมพัฒนาระบบหลอดเลือดและหัวใจขึ้นมาแต่ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น
เดือนที่ 2 เริ่มมีพัฒนาการเบื้องต้น
พัฒนาการทารกในครรภ์ในเดือนที่ 2 จะเป็นการพัฒนาต่อเนื่องมาจากเดือนแรก โดยระบบไหลเวียนเลือดเริ่มจะทำงานในเดือนนี้ ทำให้เป็นเดือนที่หัวใจของทารกเริ่มเต้นครั้งแรกอีกด้วย ทั้งยังเริ่มสร้างระบบประสาท รวมไปถึงไขสันหลังซึ่งเป็นระบบพื้นฐานที่สำคัญของร่างกาย
นอกจากการพัฒนาที่ต่อเนื่องมาจากเดือนแรกแล้ว ช่วงเดือนนี้ยังเริ่มพัฒนาอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย เช่นเริ่มงอกแขนขาเล็ก ๆ ออกมา หูตาปากเริ่มเป็นรูปทรงดูมีรูปร่างมากขึ้น โดยในช่วงปลายเดือนในระยะ embryo นี้ทารกยังเริ่มพัฒนามือและเท้าขึ้นมาอีกด้วย แต่จะยังมีพังผืดระหว่างนิ้วอยู่
เดือนที่ 3 อวัยวะเริ่มทำงาน รู้เพศลูกแล้ว
พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 3 เป็นเดือนที่อวัยวะต่าง ๆ จากเดือนที่ผ่านมาเริ่มทำงานได้ ฟันและต่อมรับรสเริ่มก่อตัว นิ้วมือนิ้วเท้าแยกออกจากกันชัดเจน เริ่มเห็นหูออกมาจากบริเวณศีรษะของทารก รวมไปถึงเป็นเดือนที่อวัยวะเพศเริ่มก่อตัวอีกด้วย
ดังนั้นคุณแม่ที่สงสัยว่าท้องกี่เดือนรู้เพศลูก? ก็คงได้ตำตอบแล้วว่าสามารถรู้เพศลูกได้ในช่วงเดือนที่ 3 เป็นต้นไปนั่นเอง โดยอาจช้าไปกว่านี้ได้อีกหรือตรวจได้เลยในเดือนนี้ขึ้นอยู่กับวิธีตรวจเพศลูกที่คุณแม่เลือกใช้
ในระยะนี้ พัฒนาการทารกในครรภ์จะผ่านพ้นจากระยะ Embryo เข้าสู่ระยะ Fetus เรียบร้อยแล้ว โดยทารกจะเริ่มมีการกำมือแบมือ หรืออ้าปากปิดปากได้ แต่อาจจะยังไม่สามารถขยับได้มากนัก ในเดือนนี้ยังเป็นเดือนที่ทารกเริ่มดื่มน้ำคร่ำและสามารถปัสสาวะได้อีกด้วย

เดือนที่ 4 ระบบประสาททำงาน
พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 4 ระบบประสาทของทารกเริ่มทำงาน อวัยวะต่าง ๆ เริ่มเข้าที่สู่ตำแหน่งถาวรที่ควรจะเป็น เริ่มมีการเคลื่อนไหวของดวงตา และทารกอาจเริ่มขยับอย่างตั้งใจ เช่น ดูดนิ้วหรืออาจยิ้มออกมาได้
เดือนที่ 5 ลูกดิ้น ตอบสนองต่อสิ่งรอบตัว
ในเดือนที่ 5 พัฒนาการทารกในครรภ์เริ่มมีการตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวมากขึ้น ทารกสามารถขยับตัวหันหนีแสงและตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยินได้ นอกจากนี้ทารกยังเริ่มต่อยหรือเตะท้องคุณแม่ ทำให้ระยะนี้เป็นเดือนที่สามารถเริ่มนับลูกดิ้นได้นั่นเอง
นอกจากการตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวแล้ว ระยะนี้ยังเป็นเดือนที่ทารกเริ่มพัฒนาเล็บขึ้นมาบริเวณปลายนิ้ว รวมไปถึงมีขนอ่อนปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายอีกด้วย
เดือนที่ 6 ได้ยินเสียงคุณพ่อคุณแม่
พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 6 ทารกเริ่มมีการขยับบ่อยขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้นทำให้แรงบีบมือมากพอที่จะสามารถจับหูของตนเองได้ จุดเด่นของพัฒนาการลูกน้อยในเดือนนี้คือสามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้น เสียงท้องร้อง กระทั่งเสียงหายใจของคุณแม่ได้อย่างชัดเจน และทารกยังพัฒนาปอดจนสมบูรณ์ภายในเดือนนี้ (แต่จะยังไม่สามารถหายใจนอกครรภ์ได้)
เดือนที่ 7 กระพริบตาได้ ลืมตาได้
เดือนที่ 7 พัฒนาการทารกในครรภ์จะเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม สามารถกระพริบตาและลืมตาได้แล้ว โดยในระยะนี้ทารกจะมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังที่หนาขึ้นยิ่งกว่าเดิม เพื่อให้สามารถพัฒนาร่างกายส่วนต่าง ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงเป็นเดือนที่จะเริ่มเห็นสีผิวและสีตาของทารกได้แล้ว
เดือนที่ 8 สมองพัฒนาเต็มที่
เดือนที่ 8 พัฒนาการทารกในครรภ์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว สมองพัฒนาเต็มที่และมีรอยหยักแล้ว อวัยวะส่วนมากเป็นรูปเป็นร่างเตรียมตัวออกสู่โลกภายนอก และประสาทสัมผัสต่าง ๆ ไวขึ้นกว่าเดิม ทำให้ตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้มากขึ้น
เดือนที่ 9 ปอดพัฒนาเต็มที่ พร้อมออกสู่โลกกว้าง
พัฒนาการทารกในครรภ์ในเดือนสุดท้าย อวัยวะต่าง ๆ ของทารกจะพัฒนาเต็มที่แล้วพร้อมออกสู่โลกกว้าง เช่น ปอด โดยในช่วงท้ายขนอ่อนที่ปกคลุมร่างกายทารกจะหลุดร่วงไปและมีผมขึ้นมาแทนบริเวณศีรษะ
แนวทางกระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์
รู้จักพัฒนาการทารกในครรภ์แต่ละเดือนกันไปแล้ว มาดูแนวทางการกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์กัน โดยคุณแม่สามารถกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- อายุครรภ์ 20 สัปดาห์: ลูบหน้าท้องเบาๆ ด้วยการเอามือสัมผัสวนไปรอบๆ หน้าท้องจากบนลงล่าง หรือล่างขึ้นบน ซึ่งทารกในครรภ์รับรู้สัมผัสนี้ได้ และบางครั้งจะเคลื่อนไหวตามมือที่ลูบ เหมือนเรากำลังเล่นกับเขาอยู่ ช่วยให้ลูกออกมาอารมณ์ดี
- อายุครรภ์ 24-26 สัปดาห์: เนื่องจากระบบการได้ยินของลูกในอายุครรภ์ช่วงนี้พัฒนาเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่สามารถจึงสามารถกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ได้โดยการพูดคุยกับเขาบ่อยๆ ด้วยโทนเสียงที่นุ่มนวล หรือเปิดเพลงให้ฟัง โดยเพลงที่เปิดควรเป็นเพลงคลาสสิก ฟังสบาย ทั้งนี้ควรเปิดเพลงให้ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต ด้วยเสียงพอประมาณ วันละ 1 ครั้ง นาน 10-15 นาที
- อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป: ช่วงนี้เซลล์สมองและเส้นประสาทรับภาพเริ่มทำงานดีขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ด้วยการส่องไฟฉายที่หน้าท้อง เพื่อกระตุ้นการลืมตา กระพริบตา และแยกความมืดกับสว่าง ทั้งนี้แสงไฟที่ใช้ส่องต้องไม่เป็นแสงที่แรงสูง เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อลูกในท้องได้ การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ด้วยวิธีนี้ให้เปิด-ปิดไฟ เป็นจังหวะช้าๆ เลื่อนซ้าย-ขวา ไปมา วันละ 5-10 ครั้ง ครั้งละ 1-2 นาที
นอกจากนี้ยังมีวิธีกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ที่ไม่ว่าคุณแม่จะอายุครรภ์เท่าไหร่ก็สามารถทำได้ เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ กระตุ้นพัฒนาการรับรส, ออกกำลังกาย กระตุ้นระบบประสาทสัมผัส
คุณแม่ควรเฝ้าระวังอะไรบ้าง
ข้อห้ามคนท้อง 1-3 เดือนแรก รวมถึงข้อห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกช่วงอายุครรภ์ ที่ควรปฏิบัติตามได้แก่
- ห้ามสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทำให้มีพัฒนาการช้า และยังส่งผลให้คลอดก่อนกำหนด หรือแท้งได้
- ห้ามเครียด ความเครียดจะทำให้ร่างกายของแม่หลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาจำนวนมาก ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกและรกหดตัว ออกซิเจนที่ส่งไปยังทารกในครรภ์มีปริมาณน้อย หรืออาจไม่เพียงพอ ทำให้เจริญเติบโตช้า หรือเสี่ยงที่จะแท้งได้
- ห้ามลดน้ำหนัก เพราะจะทำให้ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ร่างกายพัฒนาไม่เต็มที่ และเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
- ห้ามอบไอน้ำ ซาวน่า เพราะความร้อนจะทำให้ร่างกายของแม่สูญเสียน้ำและเกลือแร่ที่จำเป็น ทำให้เลือดข้น ไปเลี้ยงทารกได้น้อย จนทำให้เติบโตไม่เต็มที่ และอาจเสี่ยงแท้งได้
สรุป
พัฒนาการทารกในครรภ์จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามแต่ละเดือน โดยการกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ที่ดีที่สุดคือการกระตุ้นตามพัฒนาการในแต่ละช่วง รวมถึงเรื่องพื้นฐานอย่างการรับประทานอาหารให้หลากหลาย และมีประโยชน์ ออกกำลังกาย และควรเลี่ยงสิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อตัวเองและทารกในครรภ์ เพื่อให้ทารกมีพัฒนาการที่ดี เจริญเติบโตเต็มที่ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่อยู่ในท้อง
References
รู้มั้ย…หนูมีพัฒนาการตลอด 9 เดือนในท้องแม่เลยนะ Available from: https://whiteroom.ai/2022/11/17/รู้มั้ยหนูมีพัฒนาการต/
อาการคนแพ้ท้องเป็นอย่างไร คุณพ่อและคุณแม่รับมืออย่างไรได้บ้าง Available from: https://whiteroom.ai/2023/10/13/morning-sickness-symptoms-and-remedies/
Embryogenesis and Fetal Development (พัฒนาการของทารกในครรภ์) Available from: https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/lecturestopics/topic-review/50142/
Fetal Development Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/articles/7247-fetal-development-stages-of-growth
